การที่เราให้วัตถุทาน ให้ข้าว ให้น้ำ ให้เสื้อผ้าแก่เพื่อนมนุษย์ที่ตกยาก
มันก็ไม่ได้ช่วยให้เขาพ้นทุกข์หรือรวยขึ้น หรือมีชีวิตที่สุขสมบูรณ์
อย่างนี้ไม่ได้เรียกว่า รื้อสัตว์ขนสัตว์ เรียกว่า สงเคราะห์กันชั่วคราว
ให้ได้มีกิน มีใช้ กินอิ่มเป็นมื้อ ๆ เท่านั้น ไม่ได้ช่วยเขาทุกวัน
วัตถุทานที่ให้ไปนั้น ใช้ได้ไม่นาน แต่ให้ธรรมทานใช้ได้ตลอดชีวิต เราบอกเขาครั้งเดียวให้ได้เรียนรู้ตามประสบการณ์ที่เราเข้าถึง
แค่ชีวิตหนึ่งพบกันครั้งเดียว ได้ฟังเรื่องราวความรู้ที่ทำให้เอาตัวรอดได้
การพบกันครั้งนั้นเกิดประโยชน์อันยิ่งใหญ่แล้ว แม้ต่อไปจะไม่ได้พบกันอีก
เพราะได้ให้ธรรมทาน ให้ความรู้ที่จะทำชีวิตให้รอด และปลอดภัยจากอบาย จากสังสารวัฏ
การให้ธรรมทานนี้จึงเป็นเลิศกว่าการให้ทั้งปวง และอย่างนี้ถึงจะเรียกว่า “รือสัตว์ขนสัตว์”
ให้พ้นจากวัฏสงสาร เหมือนอย่างที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงบำเพ็ญมา
11 มกราคม พ.ศ. 2547
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น