วันอังคารที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2562

อยากพัฒนาตัวเองได้เร็ว...ต้องทำอย่างไร ?






ถ้าเราอยากพัฒนาตัวเองได้เร็ว วิธีที่รวดเร็วและง่ายที่สุดก็คือ เราต้องเข้าไปคบกับคนที่เราอยากจะพัฒนาตัวเองให้เป็นแบบนั้น เพราะจะทำให้เราซึมซับนิสัยดี ๆ แนวคิดดี ๆ ของเขามาสู่ตัวเราได้ง่าย

ถ้าไม่เชื่อให้ลองสังเกตดูว่า ตัวเราจะมีชีวิตและนิสัยเหมือนค่าเฉลี่ยของคนที่เราคบด้วย 5 คน เพราะคนเราคบกันตามธาตุ คือ ต้องมีบางอย่างที่เหมือนหรือเกื้อกูลกันถึงจะคบกันได้ หรือดูง่าย ๆ อย่างคนในครอบครัวเราก็จะมีนิสัยบางอย่างที่เหมือนกันเป็นเอกลักษณ์ประจำครอบครัว

พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตรัสไว้ชัดเจนในเรื่องของการคบคน อีกทั้งยังทรงให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกสุดในธรรมะหมวดมงคลชีวิต คือ 1.ไม่คบคนพาล 2.ให้คบบัณฑิต...


วารสารอยู่ในบุญฉบับเดือนพฤษภาคมพ.ศ.2562

  

มงคลที่1 คือ ไม่คบคนพาล



คนพาล คือใคร ?

คนพาล คือคนที่มีใจขุ่นมัวเป็นปกติ เป็นผลให้มีความเห็นผิด ยึดถือค่านิยมผิดๆ และมีวินิจฉัยเสีย คือไม่รู้ว่าอะไรดี อะไรชั่ว อะไรควร อะไรไม่ควร เช่น บัณฑิตเห็นว่า “เหล้า” เป็นของไม่ดี ทำให้ขาดสติ นำความเสื่อมมาให้นานัปการ แต่คนพาลกลับเห็นว่า “เหล้า” เป็นของประเสริฐ เป็นเครื่องกระชับมิตร หรือบัณฑิตเห็นว่า “การเล่นไพ่”  เป็นอบายมุข เป็นปากทาง หรือเป็นสัญลักษณ์แห่งความฉิบหาย แต่คนพาลกลับเห็นว่า “การเล่นไพ่” เป็นสิ่งดีทำให้เพลิดเพลิน เป็นการฝึกสมองซ้อมวิชาคำนวณ ดังนี้เป็นต้น

คนพาลมีลักษณะเป็นคนเหมือนกับเรา คือมีร่างกายประกอบด้วยเลือดเนื้อ เช่นเดียวกับเรา และอาจมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับเราก็ได้ เช่น เป็นญาติพี่น้อง สามีภรรยา ครูอาจารย์ ฯลฯ  อาจเป็นผู้มีการศึกษาสูง อาจมีตำแหน่งหน้าที่การงานสูง อาจมีสมัครพรรคพวกมาก ฯลฯ แต่ไม่ว่าจะเป็นอะไร มีความสัมพันธ์กับเราหรือไม่ ขึ้นชื่อว่าพาลแล้ว ถึงแม้จะมีความรู้มีความสามารถ   ก็ไม่ใช้ความรู้ความสามารถในทางที่ถูกที่ควร เพราะเขาแสลงต่อความดี เหมือนคนไข้แสลงต่อน้ำเย็น

 


ลักษณะของคนพาล
เนื่องจากคนพาลมีใจขุ่นมัวอยู่เสมอ ทำให้ไม่สามารถควบคุมใจให้คิดไปในทางที่ถูกต้องได้ คนพาลจึงมีลักษณะวิปริตผิดจากคนทั้งหลาย 3 ประการ คือ
1.ชอบคิดชั่วเป็นปกติ ได้แก่ คิดละโมบอยากได้ในทางทุจริต คิดพยาบาทปองร้าย คิดเห็นผิดเป็นชอบ ฯลฯ
2.ชอบพูดชั่วเป็นปกติ ได้แก่ พูดปด พูดคำหยาบ พูดส่อเสียดยุยง พูดเพ้อเจ้อ ฯลฯ
3.ชอบทำชั่วเป็นปกติ ได้แก่ เกะกะเกเร กินเหล้าเมายา ชอบล้างผลาญชีวิตคน และสัตว์ ลักทรัพย์ ฉุดคร่าอนาจาร ฯลฯ



โทษของความเป็นคนพาล

1.มีความเห็นผิด ก่อทุกข์ให้ตนเอง
2.เสียชื่อเสียง ถูกติฉินนินทา
3.ไม่มีคนนับถือ ถูกเกลียดชัง
4.หมดสิริมงคล หมดสง่าราศี    
5.ความชั่วเภทภัยทั้งหลาย จะไหลเข้ามาหาตัว
6.ทำลายประโยชน์ของตนเองทั้งโลกนี้และโลกหน้า
7.ทำลายวงศ์ตระกูลของตนเอง
8.เมื่อละโลกไปแล้วมีอบายภูมิเป็นที่ไป

การไม่คบคนพาล คือการไม่ยอมมีพฤติกรรมสัมพันธ์ใดๆ ดังกล่าว ข้างต้นกับคนพาล ถ้าเรายังคบคนพาลอยู่ ไม่ว่าจะในระดับไหนก็ตาม รีบถอนตัวเสียโดยด่วน อย่าประมาท รีบตัดไฟเสียแต่ต้นลม มิฉะนั้นจะพลาด ติดเชื้อพาลโดยไม่รู้ตัว กลายเป็นพาลตามไปด้วย

โบราณท่านให้คติเตือนไว้ว่า
ห่างสุนัขให้ห่างศอก
ห่างวอกให้ห่างวา
ห่างพาลาให้ห่างหมื่นโยชน์แสนโยชน์

โทษของการคบคนพาล


1.ย่อมถูกชักนำไปในทางที่ผิด
2.ย่อมเกิดความหายนะ การงานล้มเหลว
3.ย่อมถูกมองในแง่ร้าย ไม่ได้รับความไว้วางใจจากบุคคลทั่วไป
4.ย่อมอึดอัดใจ เพราะคนพาลแม้เราพูดดีๆ ด้วยก็โกรธ
5.หมู่คณะย่อมแตกความสามัคคี เพราะการยุยงและไม่ยอมรับรู้ระเบียบวินัย
6.ภัยอันตรายต่างๆ ย่อมไหลเข้ามาหาตัว
7.เมื่อละโลกแล้ว ย่อมมีอบายภูมิเป็นที่ไป รายละเอียดเพิ่มเติม





มงคลที่ 2 คบบัณฑิต



บัณฑิต คือใคร ?

บัณฑิต คือคนที่มีใจผ่องใสอยู่เป็นปกติ ทำให้มีความเห็นถูก ยึดถือค่านิยมที่ถูกต้อง สามารถดำเนินชีวิตอยู่ด้วยปัญญา

1.เป็นผู้รู้ดี         คือรู้ว่าอะไรดีอะไรชั่ว
2.เป็นผู้รู้ถูก      คือรู้ว่าอะไรถูกอะไรผิด
3.เป็นผู้รู้ชอบ    คือรู้ว่าอะไรบุญอะไรบาป

บัณฑิต อาจเป็นใครก็ได้ เช่น อาจเป็นผู้อ่านหนังสือไม่ออก อาจเป็นชาวไร่ชาวนา อาจเป็นผู้มีการศึกษาสูง อาจเป็นญาติของเรา ฯลฯ  แต่ไม่ว่า  จะเป็นอะไรก็ตาม  จะต้องเป็นผู้มีจิตใจผ่องใส  และดำเนินชีวิตอยู่ด้วยปัญญา  คือเป็นคนดีนั่นเอง


คนทั่วไปมักเข้าใจว่า ผู้ที่เรียนหนังสือจนได้รับปริญญานั้น คือบัณฑิต ความจริงแล้วนั่นเป็นเพียงบัณฑิตทางโลกเท่านั้น ยังไม่ใช่บัณฑิตที่แท้จริง เพราะผู้ที่ได้รับปริญญาแล้วถ้าความประพฤติไม่ดีอาจไปทำผิดติดคุกติดตะรางได้ แต่บัณฑิตที่แท้จริงย่อมเป็นผู้ตั้งใจละชั่ว ประพฤติชอบ ประกอบแต่ความดี ความถูกต้อง ความสุจริต สามารถป้องกันตนให้พ้นจากคุกจากตะราง แม้กระทั่งจากนรกได้


บัณฑิตมิใช่ผู้มีเพียงปริญญา

แต่คือผู้อุดมด้วยศีล สมาธิ ปัญญา”


ลักษณะของบัณฑิต


เนื่องจากบัณฑิตเป็นผู้มีจิตใจผ่องใส มีความเห็นถูก ดำเนินชีวิตอยู่ด้วย ปัญญา ฉลาดในการสอดส่องหาเหตุผล จึงมีลักษณะพิเศษสูงกว่าคนทั้งหลาย  3 ประการ คือ
1.ชอบคิดดีเป็นปกติ ได้แก่ คิดให้ทาน คิดให้อภัยอยู่เสมอ ไม่ผูกพยาบาท คิดเห็นถูกต้องตามความเป็นจริง เช่น เห็นว่าบุญบาปมีจริง พ่อแม่   มีพระคุณต่อเราจริง เป็นต้น
2.ชอบพูดดีเป็นปกติ ได้แก่ พูดคำจริง พูดคำสมานไมตรี พูดคำ    มีประโยชน์  พูดด้วยจิตที่ประกอบด้วยเมตตา  และพูดถูกต้องตามกาลเทศะ
3.ชอบทำดีเป็นปกติ ได้แก่ มีเมตตากรุณา ประกอบสัมมาอาชีวะ ทำบุญให้ทานเป็นปกติ รักษาศีล ทำสมาธิภาวนาอย่างสม่ำเสมอ

จะเห็นว่า คนที่เราเลือกคบมีอิทธิพลต่อชีวิตเราสูงถึงขนาดจะนำพาชีวิตเราให้ประสบความสำเร็จหรือล้มเหลวก็ได้ เพราะถ้าเราคบกับคนชอบนินทา เราก็จะชอบนินทา ถ้าเราคบกันคนขี้เกียจ วัน ๆ เราก็จะเอาแต่ขี้เกียจ เพราะคนที่เราคบยังขี้เกียจได้เลย


ฉะนั้น ถ้าเราอยากจะพัฒนาตัวเองในด้านไหน เราต้องไปคบกับคนแบบนั้น คือ ถ้าอยากขยัน เราก็ต้องไปคบกันคนขยัน ถ้าอยากนั่งสมาธิเยอะ ๆ เราก็ต้องคบกับคนชอบนั่งสมาธิ ถ้าอยากมีความสุข ก็ต้องไปคบกับคนมีความสุข

เกิดมาทั้งทีไม่ใช่จะคบใครก็ได้ เพราะคนที่เราคบมีอิทธิพลเปลี่ยนชีวิตเราให้ดีหรือเลวได้...

แล้วทุกวันนี้คุณคบกับคนแบบไหน

วารสารอยู่ในบุญประจำเดือนพฤษภาคมพุทธศักราช 2562

กราบขอบพระคุณ :
วารสารอยู่ในบุญฉบับเดือนพฤษภาคมพุทธศักราช 2562


วันเสาร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2562

หลวงพ่อตอบปัญหา...ชวนคนทำความดีนั้น ดีอย่างไร ?


วันนี้ขอนำโอวาทของหลวงพ่อทัตตชีโวที่ท่านเมตตาอบรมพร่ำสอนให้ลูกศิษย์ทุกคนได้มีแนวทางในการดำเนินชีวิตที่ดี ว่าชวนคนทำความดีนั้น ดีอย่างไร ?

 หลวงพ่อตอบ

ตั้งแต่สมัยก่อน หลวงพ่อชอบไปกราบไปถามคุณยายอาจารย์ฯ ที่บ้านธรรมประสิทธิ์ วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ทั้งไปลำพังและไปกันเป็นหมู่คณะ คุณยายท่านก็จะหาโอกาสเตือนลูกศิษย์ ท่านมักให้โอวาทในลักษณะนี้ว่า “มนุษย์เรากว่าจะมารู้บุญรู้บาป ก็โตกันแล้วทั้งนั้น ในระหว่างนั้นตั้งแต่เล็กจนโต กว่าจะมาถึงวันรู้บุญรู้บาป มนุษย์มักจะทำบาปมาคนละไม่น้อยพูดง่าย ๆ มนุษย์เริ่มชีวิตด้วยการมีหนี้บาปติดลบมาแล้วตั้งแต่เล็กเกิดมาก็บี้มดตบยุงเป็นสร้างหนี้ตั้งแต่เกิด เป็นหนี้บาป สิ่งที่ทำเอาไว้นี้ไม่สูญเปล่านะคุณ”
คุณยายบอกว่า “ อะไรที่เราทำ ใจเราบันทึกไว้หมดเลยคุณ เสียงที่เราพูดเอาไว้ไม่ว่าดีหรือไม่ดี ใจก็บันทึกเอาไว้ สิ่งที่เราเห็น สิ่งที่เราทำ ใจก็บันทึกเอาไว้เป็นภาพ ทั้งดีทั้งไม่ดี ภาพเหล่านี้ไม่สูญไปไหนนะคุณ พอใกล้ตายมันจะกรอกลับมาฉายให้คุณเห็น มันจะสรุปออกมาทั้งบาปทั้งบุญ ถ้าใครทำบุญไว้เยอะ สร้างความดีไว้มาก ภาพบุญแซงหน้ามาก่อนเลย ฉายบุญเท่าไรก็ไม่หมด คนพวกนี้เวลาเขาตาย เขาจะอิ่มบุญ ใจเขาใส แล้วเขาจะไปดี แต่พวกที่ไม่ทำบุญ เวลาภาพมันกรอกลับมา จะมีแต่ภาพลบ ๆ แล้วใจจะขุ่นมัว ถ้าใจขุ่นมัวตายแล้วก็ไปไม่ดี คุณรักเพื่อนคุณก็ไปตามเขามานะ ต้องหาทางพาเขามานั่งธรรมะ เขาจะได้ทำบุญเป็น ต้องให้พรรคพวกมีบุญติดตัวไปเยอะ ๆ แล้วเขาจะได้เลิกทำบาป ต่อไปชีวิตพวกเขาจะได้ก้าวหน้า “



หลวงพ่อครูไม่เล็กเป็นคนรักเพื่อน ก็ชวนเพื่อนมา คิดแล้วเป็นพันคน แต่เหลือมาบวชสัก 10 คนได้กระมัง ที่ยกเรื่องนี้ขึ้นมาเพราะนึกถึงผู้นำบุญทั้งหลายที่ไปตามใครต่อใครมาบวชแล้วเขาก็ยังไม่ค่อยจะมา อย่าท้อเลย เพราะกว่าครูไม่เล็กจะตามมาบวชแล้วเขาก็ยังไม่ค่อยจะมา อย่าท้อเลย เพราะกว่าครูไม่เล็กจะตามมาบวชได้ราว ๆ สิบคนก็ตามมาเป็นพัน ๆ คน เหมือนกัน เพราะฉะนั้นใครไปตามมาเป็นพัน ๆ คน แล้วเขายังไม่บวช ก็อย่าเพิ่งท้อใจนะ นึกว่าเป็นเพื่อนกับครูไม่เล็กก็แล้วกัน ก็เป็นอย่างนี้แหละ ไปตามเถิดภาพการตามคนมาวัด ภาพการตามคนมาบวช จะบันทึกลงไปในใจของเราอย่างชัดเจน

ผู้นำบุญทั้งหลายที่ไปตามใครต่อใครมาบวช แล้วเขาก็ยังไม่ค่อยจะมา อย่าท้อเลยเพราะกว่าครูไม่เล็กจะตามมาบวชได้ราว ๆ สิบคน ก็ตามมาเป็นพัน ๆ คน เหมือนกัน




ตั้งใจเถิด สร้างภาพดี ๆ กันใหม่ ภาพดี ๆ ชนิดทำบุญแล้วเหงื่อตกเลยอย่างนี้ หรือ คำโบราณบอกว่า สร้างบารมีชนิดเอาชีวิตเป็นเดิมพัน เลือดตกยางออกก็ยอมทำ ทำไมเขาจึงยอมทำกัน เพราะภาพที่สร้างบารมีประเภทเอาชีวิตเป็นเดิมพัน ประเภทเหงื่อตกหรือเลือดตกยางออกก็ดี ภาพเหล่านี้จะฝังลึกอยู่ในใจ นึกเมื่อไรก็ชัดปุ๊บ ภาพเหล่านี้เมื่อถึงเวลาแล้วมีโอกาสที่จะแซงภาพไม่ดีที่เคยพลั้งเผลอทำมาก่อนเข้าวัด เมื่อมีแต่ภาพที่ทำความดีชนิดเต็มที่บรรจุอยู่ในใจของเราอย่างนี้ นั้นคือหลักประกันในภายภาคหน้าว่า ไม่ว่าเกิดในภพชาติไหน ๆ ชีวิตจะไม่มีตกต่ำ เพราะมีแต่ภาพของการสร้างบุญเต็มไปหมด ต่อไปในภายภาคหน้าแม้ในความฝัน เรื่องไม่ดียังแทรกไม่ได้ ตรงนี้ฝากไว้ด้วย





ที่ไปชวนใครบวชนั้น เรามักจะเจออยู่  2 อย่าง อย่างแรก เห็นดีเห็นงามด้วย อีกอย่างก็คือ รู้สึกขัดคอ หน้าแดงขึ้นมาเชียว ซึ่งเราก็จำเป็นจะต้องหาเหตุผลมาอธิบายให้เขาเข้าใจ การที่ต้องหาเหตุผลนี้จะฝังลึกลงไปในใจ ต่อไปภายหน้า พอถึงเวลาเราก็ให้เหตุผลตัวเองได้ทันทีแม้ข้ามชาติว่า ฉันก็ต้องรีบบวชเหมือนกัน มันดีอย่างนี้ อะไรที่ต้องใช้เรี่ยวแรงเต็มที่และเป็นบุญกุศล มีโอกาสแล้วให้รีบทำ โดยเฉพาะบุญกุศลตามลูกหลานมาบวชก็ดี ตามญาติโยมผู้ใหญ่มาบวชก็ตามที ล้วนต้องให้เหตุผลทั้งสิ้น และลูกหลานในยุคนี้เขาก็มีเรื่องสนุกอยู่เหมือนกัน เพราะฉะนั้น ถ้าให้เหตุผลเฉียบไม่พอ ลึกซึ้งไม่พอ แน่นอนเขาไม่มา นอกจากไม่มาแล้ว บางทีอาจจะพูดอะไรกระแนะกระแหนเราอีกบ้างก็ไม่รู้ เพราะฉะนั้นการทำความดีนี้ เราจะถูกบังคับให้ต้องหาเหตุผล จะต้องกลั่นกาย กลั่นใจ กลั่นคำพูดที่พอเหมาะพอดีมาให้แก่เขา





ใครยังไม่ได้ไปชวนลูกหลานหรือผู้ใหญ่มาบวชก็ตาม ช่วยไปทำหน้าที่ให้เต็มที่ด้วยนะ ด้วยความตั้งใจอย่างนี้ เกิดกี่ชาติ ๆ จะได้ไม่หลุดไปจากหมู่คณะนักสร้างบารมี ไม่หลุดจากดินแดนที่พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรือง

เมื่อเป็นอย่างนี้ ตลอดเวลาที่กำลังชวนเขา บุญก็เกิด ไม่ว่าเขาจะมาบวชด้วยหรือไม่มาก็ตามที บุญก็เกิด เพราะเราคั้นศักยภาพ คั้นความรู้ธรรมะ และคั้นความจริงใจของเราเอามาให้เขา ทำไป ตั้งใจตามไป ไม่ว่าลูกหลานของเราหรือผู้ใหญ่ให้ไปตามมาบวช วันนี้ตามไม่มาเจอหน้าอีกทีไม่แน่ แม้เราไม่ได้ไปเจอเขาอีก แต่ทีมงานของพวกเรากระจายกันอยู่ทั่วแผ่นดิน วันนี้เราชวนไม่บวช เดี๋ยวไปเจออีกคนสองคน สักวันก็มาบวชจนได้ เพราะคนเรานั้น บางทีคนที่ 1 ชวนมาบวช ไม่เห็นด้วย คนที่ 2 ชวนมาบวช ไม่เห็นด้วย แต่คนที่ 3 มาชวนบวช ชักลังเล เอ! คงมีอะไรดีนะ ถ้าคนที่ 4 มาชวน เอ้า! ลองดู

ชวนคนทำความดีนี้อย่าเพิ่งท้อนะ ใครยังไม่ได้ไปชวนลูกหลานหรือผู้ใหญ่มาบวชก็ตาม ช่วยไปทำหน้าที่ให้เต็มที่ด้วยนะ ด้วยความตั้งใจอย่างนี้ เกิดกี่ชาติ ๆ จะได้ไม่หลุดจากหมู่คณะนักสร้างบารมี ไม่หลุดจากดินแดนที่พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรือง


ลูกศิษย์ทุกคนได้รับความเมตตาจากหลวงพ่อทัตตชีโว(คุณครูไม่เล็ก) ที่ท่านเมตตาอบรมพร่ำสอนธรรมะ ทำให้ลูกศิษย์ทุกคนมีแนวทางในการดำเนินชีวิตที่ดีมีความสุขและถูกต้องปลอดภัยในสังสารวัฏ

หลวงพ่อทัตตชีโว(คุณครูไม่เล็ก)

21 ธันวาคม พุทธศักราช 2562  วันคล้ายวันเกิดหลวงพ่อทัตตชีโว(คุณครูไม่เล็ก) ครบ 79 ปี ลูกศิษย์ทุกคนพึงกระทำแสดงความกตัญญูกตเวทิตาคุณตอบแทนพระคุณหลวงพ่อทัตตชีโว(คุณครูไม่เล็ก)ครูผู้มีพระคุณต่อลูกศิษย์ทุกคนยิ่งชีวิต ด้วยการทำหน้าที่กัลยาณมิตรชักชวนชายแมนแมนผู้มีบุญมาบวช เพื่อสืบทอดอายุพระพุทธศาสนา สำคัญเพื่อบูชาธรรมหลวงพ่อทัตตชีโว (คุณครูไม่เล็ก) ตามกำหนดการนี้

                           


ศิษย์ดีต้องมีความกตัญญู
ความกตัญญูเป็นเครื่องหมายของคนดี
กัลยาณมิตรเป็นทั้งหมดของพรหมจรรย์

กราบขอบพระคุณ
หลวงพ่อตอบปัญหา : วารสารอยู่ในบุญฉบับที่ 199 เดือนกรกฎาคม 2562